ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนดูดไขมันต้นแขน

รูปร่างดีเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย แต่หลายคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งคนที่ออกกำลังกายและควบคุมอาหาร แต่ก็มักจะมีไขมันส่วนเกินสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะ ในช่วงต้นแขน ซึ่งไขมันในบริเวณต้นแขนจะลดได้ค่อนข้างยากมาก

ในปัจจุบันวงการทางการแพทย์มีวิธีการรักษาเพื่อปรับรูปร่างในบริเวณที่มีไขมันสะสม หรือบริเวณที่ต้องการให้ได้สัดส่วนสวยงาม ทำให้ต้นแขนพรียวกระชับมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือ ดูดไขมันต้นแขนหรือการดูดไขมันแขนนั้นเองค่ะ

ขั้นตอนการดูดไขมัน

เมื่อแพทย์ประเมินว่าสามารถดูดไขมันได้ จะมีการฆ่าเชื้อบริเวณที่จะดูดไขมัน ฉีดยาชา และทำการกรีดแผล ประมาณ 0.1 – 0.5 มิลลิเมตร ซึ่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและผิวของผู้มาดูดไขมัน จากนั้นจะเริ่มทำการสลายไขมันและดูดไขมันออกมา

แผลจากการดูดไขมัน

ปกติแล้ว การดูดไขมันที่ต้นแขน มักจะมีการลงเข็ม 2 บริเวณ ได้แก่ บริเวณข้อศอกด้านนอก และบริเวณรักแร้ การลงเข็มบริเวณข้อศอกจะทำให้แผลหายเร็วกว่า แต่จะสังเกตเห็นรอยแผลได้ชัดเจนกว่า เมื่อเทียบกับบริเวณรักแร้ แต่โดยทั่วไปแล้วแผลจะหายสนิทภายใน 6-12 เดือน

การดูแลหลังผ่าตัด

หลังดูดไขมันเสร็จ อาจทำให้เกิดความรู้สึกตึงที่แผลบ้าง แพทย์จะรัดผ้ายืดบริเวณที่ทำการดูดไขมัน เพื่อช่วยบีบรัดให้ช่องว่างระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อแนบสนิทกัน ควรรัดผ้ายืดนี้ไว้อย่างน้อยวันละ 22 ชั่วโมงภายในเดือนแรก โดยรัดให้พอดี ไม่แน่นเกินไปหรือหลวมเกินไป แล้วค่อยลดเวลาลงเหลือวันละ 12 ชั่วโมงในเดือนที่สอง ถ้าเป็นไปได้ควรรัดต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อความกระชับของผิวหนัง

โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ทำการดูดไขมันจะสามารถกลับมาทำงานได้ปกติภายในไม่กี่วัน และทำกิจกรรมหรือใช้ชวีวิตได้อย่างปกติภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแตกต่างของแต่ละบุคคลและตำแหน่งของแผล สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกดูดไขมัน เราคือ อิสสวีร์ คลินิกศัลยกรรมจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประกอบด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ทีมแพทย์ที่ได้ผ่านการดูดไขมันมามากกว่า 3,000 เคส จึงมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับการบริการที่ดีที่สุด สามารถเข้าไปดูข้อมูลเกี่ยวกับการดูดไขมันที่ได้ที่ อิสสวีร์คลินิก หรือจะเลือกชมผลลัพธ์รีวิวการดูดไขมันได้ที่ รีวิวดูดไขมันต้นแขน