เวลาพูดถึงเรื่องประกัน หลายคนอาจสับสนว่า ซื้อประกันอุบัติเหตุ กับ ประกันสุขภาพ แตกต่างกันตรงไหน เพราะดูเหมือนว่าจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้ว ทั้งสองแบบมีจุดประสงค์และความคุ้มครองที่ไม่เหมือนกัน หากคุณกำลังตัดสินใจเลือกประกันสำหรับตัวเองหรือครอบครัว บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจชัดเจนขึ้น
1. ซื้อประกันอุบัติเหตุ: ป้องกันเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง
ประกันอุบัติเหตุ (PA) ถูกออกแบบมาเพื่อคุ้มครอง “เหตุการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัว” เช่น รถชน ลื่นล้ม หรือไฟฟ้าช็อต ประกันประเภทนี้จะช่วยดูแลทั้งค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยกรณีบาดเจ็บรุนแรง ไปจนถึงความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ถ้าคุณเป็นคนที่เดินทางบ่อย ทำงานที่มีความเสี่ยง หรือชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง การซื้อประกันอุบัติเหตุ จะช่วยให้คุณอุ่นใจว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่จะไม่ตกมาเป็นภาระของครอบครัว
2. ประกันสุขภาพ: ดูแลทุกครั้งที่เจ็บป่วย
ประกันสุขภาพต่างออกไป เพราะมันครอบคลุมค่ารักษาจาก “การเจ็บป่วย” ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด โรคเรื้อรัง หรือโรคร้ายแรง ซึ่งประกันอุบัติเหตุไม่ครอบคลุม การมีประกันสุขภาพจึงเหมาะกับคนที่อยากลดความเสี่ยงจากค่ารักษาพยาบาลในระยะยาว
พูดง่าย ๆ ก็คือ ประกันสุขภาพ คือผู้ช่วยเวลาป่วย ส่วน ประกันอุบัติเหตุ คือผู้ช่วยเวลามีเหตุไม่คาดคิด
3. ซื้อประกันอุบัติเหตุ + ประกันสุขภาพ = สบายใจกว่า
บางคนคิดว่าถ้ามีประกันสุขภาพแล้วก็พอ แต่ความจริงแล้วทั้งสองอย่างเสริมกันได้ดีมาก ลองนึกภาพว่าคุณประสบอุบัติเหตุรุนแรง—ประกันอุบัติเหตุจะช่วยเรื่องเงินชดเชยและค่ารักษาเบื้องต้น ขณะที่ประกันสุขภาพจะช่วยดูแลต่อเนื่องในระยะยาว ครบทั้งสองด้านก็ยิ่งสบายใจ
4. มือใหม่ควรเลือกแบบไหนดี?
ซื้อประกันอุบัติเหตุ ไม่เหมือนกับการทำประกันสุขภาพ แต่ทั้งสองแบบสำคัญพอ ๆ กัน ประกันอุบัติเหตุช่วยรับมือเหตุการณ์ไม่ทันตั้งตัว ส่วนประกันสุขภาพดูแลเวลาป่วยจริง ๆ การเข้าใจความต่างนี้จะช่วยให้คุณเลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และงบประมาณของตัวเองได้ง่ายขึ้น